ทำงานในญี่ปุ่น
วิศวกรเครื่องกลในประเทศญี่ปุ่นได้รับเงินเดือนเท่าไหร่? #ข้อมูลประจำปี 2022
July.07.14
ทักษะขั้นสูง
ทำงานในญี่ปุ่น
วิศวกร
บทความ
April.04.11
ฉบับย่อ :
|
การได้เดินทางไปทำงาน ณ ประเทศญี่ปุ่น ดูเหมือนจะเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายคน เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทันสมัยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมายและอาหารยังอร่อยอีกด้วย เพียงแค่ปัจจัยเหล่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หลายคนที่มีทักษะภาษาญี่ปุ่นติดตัวอยากที่จะเดินทางไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นกันสักครั้ง
สำหรับคนที่มีความต้องการอยากที่จะเดินทางไปทำงานระยะสั้นเพียงไม่กี่ปี โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญในเรื่องของการฝึกฝนทักษะและประสบการณ์ทำงานเพื่อนำกลับมาใช้ประกอบอาชีพในประเทศไทยภายหลัง ขอแนะนำให้รู้จักกับ “วีซ่าฝึกงานทางด้านเทคนิค” (Trainee VISA หรือ Technical Intern Training VISA) ที่เชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดกันอย่างแน่นอน….
15 อาชีพยอดนิยมสำหรับคนที่มองหางานทำในต่างประเทศ ณ ญี่ปุ่น ประจำปี 2563-2564
วีซ่าฝึกงานทางด้านเทคนิค หรือ Trainee VISA / Technical Intern Training VISA คือ ระบบของการฝึกงานและฝึกปฏิบัติทางด้านเทคนิค (Technical Intern Training Program-TITP) ที่เปิดโอกาสสำหรับชาวต่างชาติได้เข้ามาทำการพัฒนาทักษะ ประสบการณ์และเทคนิคต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการนำกลับไปเพื่อใช้พัฒนาประเทศของตัวเอง
โครงการวีซ่าฝึกงานทางด้านเทคนิค ถูกขับเคลื่อนดำเนินการโดย Japan International Training Cooperation Organization (JICO) โดยที่องค์กรฝึกงานทางด้านเทคนิคสำหรับชาวต่างชาติ (OTITX เข้ามาช่วยในการดูแลชาวต่างชาติที่ทำการฝึกงานในประเทศญี่ปุ่น
มีหลายเหตุผลสำคัญที่ทำให้หลายคนอยากที่จะขอวีซ่าไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่น ส่วนจะมีเหตุผลอะไรที่มีความน่าสนใจกันบ้างนั้น ลองมาฟังสิ่งที่อาจช่วยสนับสนุนการตัดสินใจให้ไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่นได้มากยิ่งขึ้นกันอีกว่ามีอะไรกันบ้าง?
วีซ่าฝึกงานทางด้านเทคนิคสำหรับชาวต่างชาติสามารถแบ่งออกได้เป็นสองแบบ คือ “แบบฝึกทักษะที่ 1” (1ข) และ “แบบฝึกทักษะที่ 2” (2ข) ผู้ฝึกงานทุกคนจะเริ่มต้นจาก “แบบฝึกทักษะที่ 1” (1ข) และหลังจากที่ได้รับการประเมินในปีที่ 2 แล้วผ่านการประเมินก็จะสามารถย้ายไป “แบบฝึกทักษะที่ 2” (2ข) ที่สามารถโอนย้ายประเภทของงานที่เกี่ยวข้องกันได้ โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้
การฝึกทักษะครั้งที่ 1 เป็นสถานะของการพำนักในประเทศญี่ปุ่นที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้ามาทำงานฝึกฝนทักษะในปีแรก โดยมีประเภทของงานที่เปิดรับดังต่อไปนี้
1.งานทางด้านการเกษตร
2.สาขาอุตสาหกรรมการผลิต เช่น ช่างหล่อขึ้นรูปโลหะและช่างเชื่อม เป็นต้น
3.งานด้านการดูแลบริบาล
4.งานด้านการประมง
5.งานด้านการผลิตและแปรรูปอาหาร
6.งานด้านการก่อสร้าง
7.งานด้านอื่น ๆ
การฝึกงานด้านเทคนิคครั้งที่ 2 เป็นสถานะของการพำนักที่มอบให้ผู้ฝึกงานที่ได้รับการฝึกฝนความรู้และทักษะที่ได้รับในช่วงที่ทำการฝึกฝนทักษะครั้งที่ 1 และผ่านการทดสอบที่ได้ทำขึ้นโดยหน่วยงานรับรอง JITO โดยสามารถที่จะทำการฝึกงานต่อโดยการเทียบโอนประเภทของงานในบริษัทเดียวกันได้ ดังต่อไปนี้
1.งานทางด้านการเกษตร เช่น การทำสวน , การเพาะปลูกพืชผัก , ไม้ผล , การเลี้ยงหมู , การเลี้ยงไก่และการเลี้ยงโคนม เป็นต้น
2.งานด้านการประมง
3.งานด้านการก่อสร้าง เช่น งานโลหะ , งานช่างไม้ , งานก่อสร้าง , งานแปรรูปหิน และงานวางท่อในอาคาร เป็นต้น
4.งานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตอาหาร เช่น งานแปรรูปอาหารกระป๋อง , งานทำขนมปังและงานผลิตผักดองทางการเกษตร เป็นต้น
5.งานด้านสิ่งทอและเสื้อผ้า เช่น การปั่นด้าย การทอผ้า การยอมสีและการผลิตงานถัก เป็นต้น
6.งานด้านเครื่องจักรและโลหะ เช่น งานเครื่องจักรกล งานหล่อและงานตีขึ้นรูป เป็นต้น
7.งานด้านอื่น ๆ เช่น งานทาสี , จิตรกรรม , ช่างเชื่อมการผลิตชามกระดาษ เป็นต้น
อาชีพที่ประเทศญี่ปุ่นมักเปิดรับวีซ่าฝึกงานทางด้านเทคนิคมีอะไรกันบ้าง?
สำหรับอาชีพที่ทางประเทศญี่ปุ่นมักทำการเปิดรับวีซ่าฝึกงานทางด้านเทคนิคชาวต่างชาตินั้น โดยส่วนใหญ่แล้วมักที่จะมีอาชีพในกลุ่มดังต่อไปนี้
ในส่วนของการเดินทางไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยวีซ่าฝึกงานด้านเทคนิค สามารถที่จะทำการเดินทางผ่านสามวิธีที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
ภาพจาก : กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน
ถ้าหากใครต้องการเดินทางไปทำงาน ณ ประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่แน่ใจว่าบริษัทจัดหางานที่กำลังให้ความสนใจอยู่นั้นได้รับการจดทะเบียนที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือเปล่า? ก็สามารถทำการตรวจสอบอย่างง่ายดายด้วยตัวเองผ่านขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.เข้าสู่เว็บไซต์กรมการจัดหางาน www.doe.go.th/
2.เลือกเมนู “ทำงานต่างประเทศ”
3.ตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ทำการจัดหาคนไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น
4.ตรวจสอบว่าบริษัทตัวแทนที่กำลังให้ความสนใจ เป็นบริษัทที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
โดยพื้นฐานแล้ววีซ่าฝึกงานทางด้านเทคนิคจะมีระยะเวลากำหนดเอาไว้ที่ประมาณ 3-5 ปี ส่วนใหญ่แล้วเมื่อผู้ฝึกงานทำงานครบปีที่ 2 จะต้องเข้ารับการสอบวัดทักษะอาชีพถ้าหากผ่านการทดสอบก็จะสามารถทำการฝึกปฏิบัติงานต่อไปได้อีก 2 ปี จนกระทั่งจบหลักสูตร ในขณะเดียวกันก็ต้องมีการดำเนินเรื่องเพื่อขอทำการเปลี่ยนสภาพการพำนักอาศัยในประเทศญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน
ข่าวดีสำหรับคนอยากหางานทำในต่างประเทศ กรมแรงงานเปิดโอกาสให้ไปฝึกงานที่ญี่ปุ่นฟรี! 3 ปี
ในส่วนของเงินตอบแทนและเงินเดือนจากการไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยวีซ่าฝึกงานทางด้านเทคนิคจะได้เท่ากับ “ค่าแรงขั้นต่ำของประเทศญี่ปุ่น” ประมาณ 130,000 เยน (*ข้อมูลปี 2562) ไม่รวมโอที จำนวนของเงินตอบแทนที่ได้รับจะขึ้นอยู่กับบริษัทที่ไปฝึกงาน โดยรายละเอียดเหล่านี้จะถูกระบุเอาไว้ในสัญญาการจ้างงานที่ต้องทำการเซ็นก่อนที่จะเข้าทำงาน ดังนั้น ควรตรวจสอบรายละเอียดก่อนทำการเซ็นให้ดีเสียก่อน
สำหรับวิธีการเดินทางไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น โดยใช้วีซ่าฝึกงานทางด้านเทคนิคสามารถทำได้ 3 วิธี ดังต่อไปนี้
1.บริษัทสาขาของญี่ปุ่นในประเทศไทยทำการส่งพนักงานเข้าไปทำการฝึกงานในประเทศญี่ปุ่น
2.ผู้สนใจสมัครฝึกงานด้วยตัวเองผ่านโครงการของรัฐบาล IM JAPAN
3.ผู้สนใจเดินทางไปเองผ่านบริษัทจัดหางานที่มีใบอนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ในส่วนของที่พัก ส่วนใหญ่แล้วทางบริษัทที่ทำการฝึกงานจะเป็นผู้ที่ทำการจัดหาให้และส่วนใหญ่จะอยู่ในละแวกใกล้กับสถานที่ทำงานเพื่อให้สามารถเดินทางมาทำงานได้อย่างสะดวก ดังนั้น จึงไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องของสถานที่พักอาศัยแต่อย่างใด
ก่อนที่จะตัดสินใจว่าควรเดินทางไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยวีซ่าฝึกงานทางด้านเทคนิค มีเรื่องที่ควรทราบ ดังต่อไปนี้
1.การทำงานในประเทศญี่ปุ่นค่อนข้างที่จะมีความกดดันสูง เพราะชาวญี่ปุ่นทำงานกันอย่างจริงจังและมีสมาธิในการทำงานอยู่ตลอดเวลาโดยที่ไม่มีการเล่นโทรศัพท์มือหรือเดินไปคุยกัน (ยกเว้นเวลาพัก)
2.หากมีข้อผิดพลาดในการทำงานให้รีบทำการรายงานและขอโทษ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามบานปลาย
3.อาหารการกินหากทำการซื้อมาทำเอง ด้วยการเลือกซื้อของจากช่วงลดราคาจะค่อนข้างประหยัด
สำหรับผู้ฝึกงานที่มีระยะเวลาในการฝึกงานเกินร้อยละ 80 ในปีที่ 2— ของการฝึกงาน องค์กร JITCO จะทำการมอบประกาศนียบัตรให้ก่อนเดินทางกลับประเทศ
ถ้าหากใครต้องการที่จะเดินทางกลับก่อนช่วงเวลาดังกล่าวไม่สามารถทำได้ เพราะตาม “กฎหมายคุ้มครองคนหางานกระทรวงแรงงานของประเทศไทย” ได้มีการกำหนดเอาไว้ว่าสามารถทำสัญญาจ้างได้ครั้งละไม่เกิน 1 ปี เป็นการทำสัญญาแบบปีต่อปี ซึ่งไม่ได้หมายความว่าผู้ฝึกงานในระบบของ JITCO เพียง 1 ปี จะสามารถเดินทางกลับประเทศได้ เนื่องจาก “หลักสูตรการฝึกงานมีระยะเวลาทั้งหมด 3 ปี”
ถ้าหากใครมีคำถามเกี่ยวกับระยะเวลาในการฝึกงานหลังจากที่เดินทางมาทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว สามารถทำการติดต่อสำนักงานแรงงานในประเทศญี่ปุ่นผ่านทางช่องทาง ดังต่อไปนี้
อีเมล | thailabour@cresr.ocn.ne.jp |
หมายเลขโทรศัพท์ | 03-5422-7014-5 |
สำหรับคนที่ทำการฝึกงานด้วยวีซ่าฝึกงานทางด้านเทคนิคครบ 3 ปี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยังสามารถที่จะทำการยื่นเรื่องเพื่อขอทำงานในประเทศญี่ปุ่น ในระบบ “แรงงานที่มีทักษะเฉพาะ” ได้ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องทำการทดสอบทักษะฝีมือ โดยมีประเภทของงานที่ทำการเปิดรับแรงงานที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้
1.การเกษตร เช่น การเพาะปลูกและการเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น
2.การประมง เช่น การประมงที่ใช้เรือจับปลาและการเลี้ยงสัตว์น้ำ เป็นต้น
3.การก่อสร้าง เช่น การขุดบ่อ การผลิตแผ่นโลหะสำหรับการก่อสร้างและช่างไม้ เป็นต้น
4.การผลิตอาหาร เช่น การบรรจุอาหารกระป๋อง , อุตสาหกรรมการแปรรูปเนื้อไก่และการผลิตอาหารทะเลสด เป็นต้น
5.สาขาสิ่งทอ เช่น การปั่นด้าย การทอผ้า การย้อมและการผลิตเสื้อผ้าสุภาพบุรุษ เป็นต้น
6.สาขาเครื่องจักรโลหะ เช่น การหล่อแบบ การขึ้นรูป และการแปรรูปเหล็ก เป็นต้น
7.สาขาอื่น ๆ เช่น การทำเฟอร์นิเจอร์ การพิมพ์และการเข้าเล่มหนังสือ เป็นต้น
8.สาขาที่มีการประกาศยอมรับโดยรัฐมนตรี เช่น การบิการภาคพื้นสนามบิน เป็นต้น
*รายชื่อของประเภทงานของระบบแรงงานเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นฉบับเต็ม >> คลิก!
ในการเดินทางไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น สิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุดคือ การไปทำงานแบบที่มีความถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีข้อดีที่ควรทราบดังต่อไปนี้
ก่อนที่จะทำการเดินทางไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยวีซ่าฝึกงานทางด้านเทคนิค ขอแนะนำว่าสิ่งแรกที่ควรให้ความใส่ใจเป็นอย่างมากก็คือการ “เรียนภาษาญี่ปุ่น” เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองในการไปอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นเป็นระยะเวลานานตามสัญญาของการฝึกงาน และถ้าหากใครได้ภาษาญี่ปุ่นก็จะยิ่งช่วยให้เเพิ่มโอกาสอัปเกรดเงินเดือนของตัวเองให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมได้อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันมีสถาบันสอนภาษาที่มีความน่าสนใจอยากแนะนำให้รู้จักกัน ดังต่อไปนี้
ภาพจาก : www.facebook.com/berlitzthailandofficial/
สถาบันสอนภาษา Berlitz Thailand (แบร์ลิซท์ ไทยแลนด์) เป็นหนึ่งในสถาบันสอนภาษาที่มีคอร์สเรียนทันสมัยผ่านระบบออนไลน์สำหรับคนที่มีความต้องการอยากที่จะเรียนภาษาญี่ปุ่น โดยมีจุดเด่นในเรื่องของความง่ายและสนุกกับการเรียนที่สนุก เนื้อหาที่ผู้เรียนสามารถปรับแต่งกำหนดบทเรียนได้จากอาจารย์สอนภาษาผู้เชี่ยวชาญ เลือกความสะดวกในการเข้าเรียนของตัวเองและฝึกพูดกับอาจารย์ผู้สอน เพื่อให้ผู้เรียนได้รับผลประโยชน์จากการเรียนรู้อย่างสูงสุด
พร้อม 3 คอร์สเรียนที่เลือกได้ เช่น Berlitz Connect กำหนดบทเรียนได้เอง Berlitz Live Online (เรียนเดี่ยว) เรียนรู้ภาษาโดยการโต้ตอบกับผู้สอนแบบตัวต่อตัว เน้นการพัฒนาและแก้ไขเฉพาะจุดที่ต้องการ และ Berlitz Live Online (กลุ่มเล็ก) คลาสเรียนออนไลน์ที่สอนโดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษาญี่ปุ่น เพิ่มโอกาสได้เรียนรู้เพิ่มเติมจากนักเรียนของสถาบันสอนภาษา Berlitz จากประเทศอื่น ๆ
สมัครคอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่นกับ Berlitz วันนี้ พร้อมรับส่วนลดทันที! ข้อเสนอดี ๆ แบบนี้ไม่ควรพลาด!!!
เพียงสมัคร “คอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่น” กับสถาบันสอนภาษา Berlitz วันนี้ ผ่าน https://bit.ly/3xLrhwf หรือสแกน QR Code ด้านล่างนี้ พร้อมกรอกรหัส JPDJ2022 รับส่วนลดฟรีทันที!
***ส่วนลดนี้ ใช้สำหรับหลักสูตรสอนภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น!
ภาพจาก : www.facebook.com/OKLSschool
สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น OKLS เปิดสอนภาษkญี่ปุ่นสำหรับบุคคลทั่วไป โดยเน้นให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้รับมาใช้สนทนาในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดายมากขึ้น สอนโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษาญี่ปุ่นที่ได้รับการฝึกอบรมและคัดสรรมาเป็นอย่างดี พร้อมกับใช้ตำราเรียน Minna no Nihongo ที่มีเนื้อหาสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีการวัดผล ความรู้ ความเข้าใจและทักษะของภาษาญี่ปุ่นของผู้เข้าเรียน โดยมีให้เลือกเรียน 8 สาขา ครอบคลุมทั่วเขตกรุงเทพฯ
www.successlanguages.com
สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น Success Language (ศูนย์ภาษาซัคเซส) เน้นการฝึกอบรมภาษาคุณภาพสูงในพื้นที่ของจังหวัดชลบุรี ที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ สอนภาษาญี่ปุ่นโดยอาจารย์ผู้สอนเจ้าของภาษาที่มีประสบการณ์ ผ่านการฝึกสนทนาโต้ตอบ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้นำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาใช้ในสถานการณ์จริง ทั้งแบบส่วนตัว กลุ่มย่อยและนอกสถานที่
ในปัจจุบันทางสถาบันได้มีบริการแพลตฟอร์มเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อำนวยความสะดวกให้ผู้เรียนเข้าเรียนได้จากทุกสถานที่เหมือนกับมีอาจารย์ผู้สอนส่วนตัวอยู่ในห้องนั่งเล่นโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเรียนที่สถาบันสอนภาษา ด้วยหลักสูตรจุใจถึง 120 ชั่วโมง
4 เรื่องควรรู้ สำหรับคนที่อยากร่วมงานกับบริษัทในญี่ปุ่นที่เปิดรับสมัครพนักงานชาวต่างประเทศ!
ถ้าหากมองในแง่ของความคุ้มค่า ระยะเวลา 3 ปี ขอวีซ่าฝึกงานทางด้านเทคนิคนอกเหนือจากเรื่องค่าแรงที่ได้รับมาอย่างสมน้ำสมเนื้อแล้ว ผู้ฝึกงานยังได้รับประสบการณ์ในการทำงานที่มีเทคนิคที่น่าสนใจ รวมไปถึงทักษะทางด้านภาษาญี่ปุ่นที่สามารถนำกลับมาต่อยอดเพื่อใช้สมัครงานในบริษัทญี่ปุ่นที่มีสาขาในประเทศไทยได้อีกด้วย เนื่องจากบริษัทเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีความต้องการพนักงานที่มีทักษะทางด้านภาษาญี่ปุ่นเพื่อการติดต่อประสานงานและทำงานร่วมกันได้อย่างสะดวกราบรื่นนั่นเอง
ด้วยเหตุผลเหล่านี้เองที่ทำให้การเดินทางไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยวีซ่าฝึกงานทางด้านเทคนิค ถือว่าเป็นบันไดขั้นสำคัญในการพัฒนาทักษะตัวเองในระยะเวลาสั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี…
ประเทศญี่ปุ่น
เปิดประตูต้อนรับคุณแล้ว
เมื่อประมาณช่วงเดือนเมษายน ปี พศ. 2562
ประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศประเภทวีซ่าสำหรับการทำงานชนิดใหม่ที่มีชื่อว่า "วีซ่าความชำนาญเฉพาะทาง" หรือ SSV (Tokutei Ginou Visa) ซึ่งวีซ่าประเภทนี้เปิดโอกาสให้กับต่างชาติที่ต้องการทำงานในประเทศญี่ปุ่น สามารถทำได้ง่ายและเข้าถึงงานที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะทางได้อย่างดี และด้วยเหตุผลนี้จากความฝันที่ว่าอยากทำงานในประเทศญี่ปุ่นจึงกลายมาเป็นความจริงในที่สุด