ทำงานในญี่ปุ่น
วิศวกรเครื่องกลในประเทศญี่ปุ่นได้รับเงินเดือนเท่าไหร่? #ข้อมูลประจำปี 2022
July.07.14
ทักษะขั้นสูง
ทำงานในญี่ปุ่น
วิศวกร
บทความ
July.07.27
ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศใหญ่ที่มีการเปิดรับชาวต่างชาติจากหลากหลายประเทศมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก และรับแรงงานต่างชาติเข้าทำงานผ่านโครงการต่างๆ มาอย่างยาวนาน แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เรื่องการทำงาน ออสเตรเลียยังเป็นจุดหมายปลายทางของการศึกษาของเหล่าคนรุ่นใหม่อีกด้วย เพราะออสเตรเลียมีเมืองที่น่าอยู่มากมายซึ่งติดอันดับเมืองน่าอยู่ของโลกหลายปีซ้อน อาชญากรรมก็ต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เมื่อเทียบค่าครองชีพกับรายได้แล้ว สามารถดำรงชีวิตในออสเตรเลียได้สบายๆ เลยค่ะ ยังไม่พูดถึงสวัสดิการที่ได้จากรัฐบาลนะคะเนี่ย!
นอกจากนี้เศรษฐกิจของออสเตรเลียยังค่อนข้างเสถียรทำให้ออสเตรเลียเป็นประเทศที่ผู้คนต่างมุ่งมั่นมาทำงานในออสเตรเลียมากมายจนสามารถเรียกได้ว่าออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ แอบกระซิบว่ามีคนจีนอาศัยอยู่เยอะพอสมควรด้วยค่ะ
โครงการ Work and Holiday หรือ WAH ก็คือโครงการที่เปิดโอกาสให้เยาวชนไทยอายุระหว่าง 18-30 ปี สามารถทำงานพร้อมกับท่องเที่ยวในออสเตรเลียได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายในระยะเวลา 1 ปี โดยโครงการนี้จะส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เปิดโลกทัศน์ ได้เข้าใจในวัฒนธรรมของออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด ฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษและสัมผัสกับชีวิตในออสเตรเลียได้อย่างเต็มที่ โดยแต่ละปีทางรัฐบาลออสเตรเลียจะมีโควตาให้ประเทศไทยไม่มากปีละ 500 คน แต่ประเทศไทยเพิ่งได้โควตาเพิ่มมาเป็น 2000 คนเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมานี้
เพื่อนๆ จะต้องกดรับโควตาเองผ่านเว็บไซต์ https://www.dcy.go.th/webnew/main/news_view.php?id=3551
*ในการไปทำงานผ่านโครงการ Work and Holiday นั้น เพื่อนๆ จะสามารถสมัครทำงานกับนายจ้างแต่ละแห่งได้นานสูงสุดเพียง 6 เดือนเท่านั้น หลังจากครบกำหนด 6 เดือนจะต้องเปลี่ยนงานใหม่หากไม่สามารถหางานใหม่ได้จะต้องถูกส่งตัวกลับประเทศไทยค่ะ
– พาสปอร์ตตัวจริง รวมถึงพาสปอร์ตเล่มเก่าและประวัติการเดินทาง โดยอายุพาสปอร์ตต้องเหลือมากกว่า 6 เดือน
– รูปถ่ายหน้าตรง พื้นหลังสีขาว ขนาด 5 x 3.5 Cm. ห้ามถ่ายไว้นานเกิน 6 เดือน
– สำเนาบัตรประชาชน / สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ
– หลักฐานทางราชการต่างๆ เช่น สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล / สำเนาทะเบียนสมรส – หย่า พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ
– สำหรับผู้ชายต้องมีหลักฐานผ่านการเกณฑ์ทหาร หรือเรียน รด. พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ
– หลักฐานการศึกษา Transcript และใบรับรองจบปริญญาบัตร ฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษ
– ในกรณีที่ผ่านการทำงานมาแล้วจะต้องมีหลักฐานการผ่านงาน ฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษ
– หลักฐานเกี่ยวกับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ เช่น ผลการสอบ IELTS / TOEFL หรือใบรับรองผลการศึกษาหลักสูตรภาษาอังกฤษ
– หนังสือรับรองคุณสมบัติจากกรมกิจการเด็กและเยาวชน
นอกจากเอกสารข้างต้นแล้วยังต้องมีเอกสารทางการเงินในกรณีออกค่าใช้จ่ายด้วยตนเองหรือมีผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายอย่างใดอย่างหนึ่งอีกด้วย ดังนี้
เรื่องน่ารู้ในการหางานในประเทศออสเตรเลียอย่างสบายใจ ถูกต้องตามกฎหมายแน่นอน [ข้อมูลปี 2021]
ในกรณีออกค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง
– หลักฐานการเงินย้อนหลัง 6 เดือนของผู้เดินทางหรือของสปอนเซอร์ไม่น้อยกว่า 5,000 AUD
– จดหมายชี้แจงเรื่องหลักฐานการเงิน ในกรณีที่มียอดเงินเข้ามาไม่นาน หรือไม่ถึง 6 เดือน
ในกรณีมีผู้สนับสนุนค่าใช้จ่าย
– จดหมายรับรองค่าใช้จ่ายเป็นภาษาอังกฤษพร้อมเซ็นรับรอง
– เอกสารส่วนตัวของผู้สนับสนุน เช่น สำเนาพาสปอร์ต
– หลักฐานแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้สนับสนุนและผู้สมัครโครงการ เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาทะเบียนสมรส พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ
– หลักฐานการเงินย้อนหลัง 6 เดือนของผู้เดินทางหรือของผู้สนับสนุนไม่น้อยกว่า 5,000 AUD
– จดหมายชี้แจงเรื่องหลักฐานการเงิน ในกรณีที่มียอดเงินเข้ามาไม่นาน หรือไม่ถึง 6 เดือน
ในการหางานทำของโครงการ Work and Holiday ในออสเตรเลียนั้น ผู้สมัครจะต้องเป็นผู้หางานด้วยตัวเองค่ะ ไม่ว่าจะผ่านเว็บไซต์ต่างๆ หรือเดินเท้าหางานในละแวกที่พัก โดยจะต้องเป็นผู้ติดต่อกับบริษัทหรือนายจ้างเอง หากเพื่อนๆ คนไหนมีวุฒิการศึกษาหรือความสามารถติดตัวและเป็นที่ต้องการ จะทำให้หางานได้ง่ายขึ้นค่ะ
ทางผู้เขียนเองก็มีเว็บไซต์สำหรับหางานมาฝากกันด้วยค่ะ สามารถคลิกลิงก์ได้เลย! www.seek.com.au
รวมทุกเทคนิค ที่คนอยากเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยในต่างประเทศควรรู้ ในปี 2021
เชื่อว่าประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศที่หลายๆ คนฝันถึง เมื่อมีโครงการดีๆ มีโอกาสเข้าร่วมแล้ว ยิ่งตอนนี้คนไทยเราได้โควตาเยอะขึ้น โอกาสสำหรับเพื่อนๆ ก็เยอะขึ้นตามไปด้วย ต้องไม่พลาดโอกาสดีๆ แบบนี้นะคะ! หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้แก่เพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะคะ!
ประเทศญี่ปุ่น
เปิดประตูต้อนรับคุณแล้ว
เมื่อประมาณช่วงเดือนเมษายน ปี พศ. 2562
ประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศประเภทวีซ่าสำหรับการทำงานชนิดใหม่ที่มีชื่อว่า "วีซ่าความชำนาญเฉพาะทาง" หรือ SSV (Tokutei Ginou Visa) ซึ่งวีซ่าประเภทนี้เปิดโอกาสให้กับต่างชาติที่ต้องการทำงานในประเทศญี่ปุ่น สามารถทำได้ง่ายและเข้าถึงงานที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะทางได้อย่างดี และด้วยเหตุผลนี้จากความฝันที่ว่าอยากทำงานในประเทศญี่ปุ่นจึงกลายมาเป็นความจริงในที่สุด