ทำงานในญี่ปุ่น
วิศวกรเครื่องกลในประเทศญี่ปุ่นได้รับเงินเดือนเท่าไหร่? #ข้อมูลประจำปี 2022
July.07.14
ทักษะขั้นสูง
ทำงานในญี่ปุ่น
วิศวกร
บทความ
July.07.07
หลายปีที่ผ่านมาหลายคนอาจได้ยินถึงข่าว ‘ผีน้อย’ หรือ ผู้ที่ไปทำงานต่างประเทศแบบผิดกฎหมาย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการไปแบบถูกกฎหมายนั้นล้วนมีข้อดีมากกว่าแรงงานที่ผิดกฎหมายอยู่มากเลยค่ะ ด้วยค่าใช้จ่ายหรือความพยายามที่เสียไป จะถูกนำกลับมาใช้ตอบแทนในเรื่องของสิทธิและกฎหมายคุ้มครองตัวเพื่อรับประกันความปลอดภัยของเพื่อน ๆ ซึ่งเราจะยกตัวอย่างข้อดีในการทำงานอุตสาหกรรมเกาหลีของผู้หญิงแบบถูกกฎหมายดังนี้ค่ะ
– ได้รับการรับรองจากกรมจัดหางาน กระทรวงแรงงาน
– มีค่าสวัสดิการหรือค่าประกันที่สามารถใช้รักษาในโรงพยาบาลได้อย่างถูกกฎหมาย
– มีรายได้ดีกว่า และได้เงินเดือนเงินเดือนจำนวนเต็มแบบไม่ต้องเสียภาษี ไม่ต้องกังวลว่าถูกโกงจากนายจ้าง
– ไม่ต้องคอยอยู่แบบหลบซ่อน สามารถเดินทางได้ในประเทศเกาหลีได้อย่างสบายใจ
– ต้องมีอายุระหว่าง 18 – 39 ปีบริบูรณ์
– สายตาไม่บอดสี
– ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา
– ร่างการสมบูรณ์ มีสุขภาพแข็งแรง และไม่มีโรคที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการทำงานหรือเป็นโรคติดต่อที่ทางประเทศเกาหลีกำหนด เช่น วัณโรค ไวรัสตับอักเสบบี ซิฟิลิส โรคทางเดินหายใจอักเสบเฉียบพลันชนิดรุนแรง ไส้เลื่อน โรคหัวใจ ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ความดันโลหิตสูง โรคปวดหลังจากหมอนรองกระดูกทับเส้น เบาหวาน นิ่วในไต
– ไม่มีประวัติการถูกเนรเทศออกจากประเทศเกาหลี หรือถูกปฏิเสธการเข้าประเทศเกาหลี
– มีความประพฤติดี ไม่มีประวัติกระทำผิดทางอาญาหรือก่ออาชญากรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคงในสังคม
– ไม่มีประวัติการเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทุกชนิด
– ไม่อาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีโดยถือวีซ่า E-9 หรือ E-10 หรือ วีซ่า E-9 และ E-10 เกิน 5 ปี
ผู้ที่มีสิทธิเข้ารับการทดสอบนั้น จะต้องทำการทดสอบความสามารถภาษาเกาหลีหรือ EPS-TOPIK โดยชุดข้อสอบจะมีรายละเอียดดังนี้ค่ะ
ชุดข้อสอบจะมีทั้งหมด 40 ข้อ คะแนนเต็มอยู่ที่ 200 คะแนน ใช้ระยะเวลาทดสอบรวม 50 นาที (ไม่มีการหยุดพัก) แบ่งชุดข้อสอบออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
1.) การทดสอบความสามารถในการอ่าน จำนวน 20 ข้อ ใช้ระยะเวลาทดสอบ 25 นาที
2.) การทดสอบความสามารถในการฟัง จำนวน 20 ข้อ ใช้ระยะเวลาทดสอบ 25 นาที
* ผู้ที่สนใจศึกษาหนังสือเรียนภาษาเกาหลี (The Standard Textbook for EPS-TOPIK) สำหรับการใช้สอบ คลิกที่นี่ *
เกณฑ์ผ่านการทดสอบ : จะต้องใช้คะแนน 95 คะแนนขึ้นไปจากคะแนนเต็ม 200 คะแนน หากมีจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์มากกว่าจำนวนโควตาที่กำหนด จะประกาศรายชื่อผู้ที่สอบได้คะแนนสูงสุดลงมาจนครบจำนวนโควตาที่กำหนดเอาไว้ค่ะ
เมื่อผ่านการทดสอบภาษาเกาหลีแล้ว ผู้ผ่านการทดสอบสามารถยื่นคำร้องไปที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานได้เลยค่ะ โดยปกติกระทรวงแรงงานจะให้รายงานตัวหลังสอบไม่เกิน 1 เดือน เมื่อรายงานตรวจเสร็จ กระทรวงก็จะรวบรวมข้อมูลผู้สอบผ่าน ส่งไปให้ที่เกาหลีเพื่อรอนายจ้างคัดเลือกตัวผู้สอบต่อไป
ในขั้นตอนนี้การจ้างงานช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับนายจ้างทางเกาหลีจะเลือกใครค่ะ อาจขึ้นอยู่กับลักษณะทางกายภาพหรือทักษะของแต่ละบุคคล หากผ่านการคัดเลือกจากทางนายจ้างแล้ว ทางกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน จะทำการติดต่อถึงผู้ผ่านการคัดเลือกภายในระยะเวลาประมาณ 3-6 เดือน หลังจากได้รับการติดต่อแล้วผู้ผ่านการคัดเลือกจึงสามารถเดินทางไปที่กรมการจัดงานเพื่อเซ็นสัญญาจ้างงาน และข้อสำคัญผู้ผ่านการคัดเลือกห้ามตัดขาดการสื่อสารหรือไปสายตามเวลาที่นัดหมายโดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอาจหมดสิทธิ์ในการว่าจ้างงานได้ค่ะ
หลังการลงนามเซ็นสัญญาจ้างงานเรียบร้อยแล้ว ผู้ผ่านการคัดเลือกจะต้องทำการเรียนภาษาเกาหลีเป็นจำนวน 1 คอร์ส (ภาคบังคับ) หรือที่เรียกกว่าว่าคอร์สเตรียมบิน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางไปทำงานจริง และเมื่อผู้คัดเลือกเรียนจนสำเร็จหลักสูตรของคอร์ส กรมจัดหางาน กระทรวงแรงงานจะมีการฝึกอบรมให้กับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกอีกครั้งหนึ่ง จนถึงการขึ้นบินไปที่ประเทศเกาหลี นายจ้างอาจมีการอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มงานจริงในลำดับสุดท้ายค่ะ
รู้หรือไม่? แค่มี 5 ข้อนี้ก็ถือสัญชาติไทยไปเป็นสถาปนิกในญี่ปุ่นได้!
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าแวดวงของงานทางด้านอุตสาหกรรมนั้น ผู้ชายมักมีโอกาสเยอะกว่าผู้หญิงในส่วนใหญ่ ด้วยศักยภาพที่ต้องใช้แรงงานทางกายภาพเยอะกว่า จึงเป็นข้อเสียเปรียบสำหรับผู้หญิงหลายคน แต่เพื่อน ๆ ไม่ต้องเป็นกังวลในเรื่องนี้มากจนเกินไปค่ะ เพราะในปัจจุบันกรมหางาน กระทรวงแรงงานและนายจ้ายงานอุตสาหกรรมเกาหลีได้เปิดกว้างให้สิทธิกับผู้หญิงมากยิ่งขึ้น และเกณฑ์ของการสมัครงานได้ถูกปรับเปลี่ยนให้ผู้หญิงมีสิทธิ์เทียบเท่ากับผู้ชายอยู่หลายด้าน สำหรับผู้หญิงคนใดที่ต้องการหารายได้จากงานอุตสาหกรรมในต่างประเทศ งานอุตสาหกรรมเกาหลีก็น่าสนใจไม่น้อยไปกว่างานอื่น ๆ เลยล่ะค่ะ
ประเทศญี่ปุ่น
เปิดประตูต้อนรับคุณแล้ว
เมื่อประมาณช่วงเดือนเมษายน ปี พศ. 2562
ประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศประเภทวีซ่าสำหรับการทำงานชนิดใหม่ที่มีชื่อว่า "วีซ่าความชำนาญเฉพาะทาง" หรือ SSV (Tokutei Ginou Visa) ซึ่งวีซ่าประเภทนี้เปิดโอกาสให้กับต่างชาติที่ต้องการทำงานในประเทศญี่ปุ่น สามารถทำได้ง่ายและเข้าถึงงานที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะทางได้อย่างดี และด้วยเหตุผลนี้จากความฝันที่ว่าอยากทำงานในประเทศญี่ปุ่นจึงกลายมาเป็นความจริงในที่สุด