4 ข้อควรรู้ก่อนไปทำงานพิเศษในญี่ปุ่นด้วยวีซ่านักเรียน

มีวีซ่านักเรียนก็ทำงานพิเศษได้เหมือนกันนะ!

การทำงานพิเศษหรือในภาษาญี่ปุ่นคือ アルバイト (อะรุไบโตะ) หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่าไบต์ เป็นที่นิยมทำกันในหมู่นักเรียน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนญี่ปุ่นเอง หรือนักเรียนชาวต่างชาติ  อาจทำเพื่อเก็บเงินไว้ซื้อสิ่งที่ตัวเองอยากได้ หรือจ่ายค่าหอพัก ซึ่งการทำงานพิเศษในญี่ปุ่นนั้นต้องบอกเลยว่า ค่าแรงรายชั่วโมงค่อนข้างสูงทำให้เด็กสามารถทำงานเก็บเงินใช้เองได้ค่ะ แต่สำหรับนักเรียนต่างชาติที่ถือวีซ่านักเรียนจะสามารถทำงานพิเศษได้โดยการยื่นคำขออนุญาตทำงานพิเศษที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือจากสถาบันที่เลือกเรียน หลังจากได้รับอนุญาต จะมีการปั๊มอยู่ช้างหลังบัตรไซริว (在留カード) หรือบัตรประจำตัวคนต่างชาติว่าเด็กคนนี้สามารถทำงานพิเศษได้  และหากนักเรียนทำงานพิเศษโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตก่อน จะถือว่าผิดกฎหมาย  

5 งานพาร์ทไทม์แบบ New Normal ทำงานพาร์ทไทม์อะไรดีในยุคCOVID-19

การทำงานพิเศษของนักเรียนต่างชาติในญี่ปุ่นจะต้องเป็นไปตามกฎดังต่อไปนี้

-มีอายุ18 ปีขึ้นไป

-ถือวีซ่านักเรียน ( Student Visa ) หากเป็นนักเรียนระยะสั้นที่ไม่ได้ถือวีซ่านักเรียนจะไม่สามารถทำงานพิเศษได้

-ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียน หากขาดเรียนเพื่อมาทำงานพิเศษ จะไม่สามารถต่อวีซ่าได้

-ต้องไม่เป็นงานที่ผิดกฎหมายหรือศีลธรรม ประเพณีที่ดีงาม

-จำนวนชั่วโมงที่เด็กต่างชาติที่ถือวีซ่านักเรียนจะสามารถทำงานพิเศษได้คือ ไม่เกิน 28 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

  แต่ในช่วงปิดเทอมจะสารถทำงานพิเศษได้มากขึ้นแต่ไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

หากไม่ได้ไปกับสถาบันใดๆ จะหางานพิเศษอย่างไร?

-ดูจากป้ายประกาศตามหน้าร้านที่เปิดรับสมัคร

-ขอคำแนะนำจากรุ่นพี่  คนรู้จัก

-ดูข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสารแนะนำงาน ซึ่งจะมีวางไว้ตามท้องถนน หรือตามสถานีรถไฟ ซึ่งสามารถหยิบฟรี  เช่น Townwork และ DOMO

-ดูจากแอปพลิเคชั่นหางานซึ่งมีมากในปัจจุบัน หรือเสิร์ชหาบนเว็บไซต์โดยอาจเสิร์ชว่า外国人 アルバイト เพื่อหางานพิเศษสำหรับชาวต่างชาติ ซึ่งจะสามารถดูรายละเอียดงานได้ก่อน สะดวกมากๆ ค่ะ

คุณสมบัติน่ารู้ สำหรับคนที่กำลังมองหางานนวดแผนไทยในต่างประเทศ ข้อมูลปี 2021

การทำงานพิเศษแต่ละประเภท

การทำงานพิเศษที่ญี่ปุ่นสำหรับนักเรียนต่างชาตินั้น ไม่ใช่ว่าจะสามารถทำได้ตามอำเภอใจนะคะ แต่จะต้องขึ้นอยู่กับความสามารถทางภาษาของแต่ละคนด้วย เช่น หากเป็นงานที่จะต้องสื่อสารกับผู้อื่น แต่เพื่อนๆ ไม่สามารถพูดได้คล่อง หรือ ฟังไม่เข้าใจ จะทำให้การทำงานติดขัดนั่นเองค่ะ

งานพิเศษที่เป็นที่นิยมในหมู่นักเรียนต่างชาติก็อย่างเช่น การเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารไทย ร้านอาหารญี่ปุ่น ,การทำงานในร้านฟาสต์ฟู้ด ร้านขนมปัง ร้านสะดวกซื้อซุปเปอร์มาร์เก็ต และโรงงานค่ะ ซึ่งระดับการใช้ภาษานั้นยังเกี่ยวข้องกับการทำงานในแต่ละตำแหน่งด้วยนะคะ เช่น หากพูดและฟังคล่องก็อาจได้เป็นแคชเชียร์ เป็นต้นค่ะ  และหากทักษะทางภาษาญี่ปุ่นดีมากๆ ก็อาจได้เป็นครูสอนภาษาไทยให้ชาวญี่ปุ่นที่ต้องการเรียนภาษาไทยค่ะ โดยค่าตอบแทนจะสูงกว่าการทำงานพิเศษอื่นๆ ด้วยนะคะ

แต่มีข้อห้ามคือ ไม่อนุญาตให้ทำงานพิเศษในสถานบันเทิง เช่น ไนต์คลับ บาร์ บ่อนการพนัน หรือที่อโคจรค่ะ

แล้วรายได้ต่อชั่วโมงของการทำงานพิเศษคือเท่าไหร่

เงินรายชั่วโมงจากการทำงานพิเศษนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกันค่ะ เช่น พื้นที่ที่ทำงานพิเศษ ซึ่งหากทำงานในต่างจังหวัด รายได้จากการทำงานพิเศษจะน้อยกว่าการทำในตัวเมืองใหญ่อย่างโตเกียวค่ะ หรือ  ร้านที่ทำงานอยู่ ซึ่งหากเป็นร้านสะดวกซื้อก็จะได้รายได้จากการทำงานพิเศษมากกว่าร้านอาหารไทย เป็นต้น

โดยเรทเฉลี่ยทั่วไปแล้ว ค่าแรงต่อชั่วโมงจากการทำงานพิเศษจะอยู่ที่ประมาณ 950 เยนต่อชั่วโมง หรือเทียบเป็นเงินไทยคือประมาณ 285 บาทต่อชั่วโมง (คิดเรท 0.30) แต่หากทำงานในร้านอาหารญี่ปุ่นหรือร้านสะดวกซื้อ ค่าแรงต่อชั่วโมงก็จะสูงขึ้น โดยจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 1,200 เยนต่อชั่วโมง หรือประมาณ 300-360 บาทค่ะ (คิดเรท 0.30)

เมื่อคิดเฉลี่ยต่อเดือนแล้ว ค่าแรงในเรท 950 เยนต่อชั่วโมงนั้น ในหนึ่งเดือนจะได้รับเงินทั้งหมดประมาณ 106,400 เยน หรือประมาณ  31,920 บาทค่ะ (คิดเรท 0.30)

เขียนเรซูเม่อย่างไรให้ [โดนใจ HR] แนะนำ 8 องค์ประกอบหลักควรมีอะไรกันบ้าง!?

บทส่งท้ายกับผู้เขียน :  ทำงานพิเศษในญี่ปุ่น ได้ความรู้ได้ประสบการณ์!

ค่าครองชีพในญี่ปุ่นเนี่ยเรียกได้ว่าแพงเอามากๆ เลยนะคะ เมื่อเทียบกับประเทศไทย เพราะฉะนั้นการทำงานพิเศษก็จะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายจากครอบครัวได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ เพื่อนๆ คงทราบอยู่แล้วว่าการทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยนั้นเหนื่อยมากๆ แต่รับรองได้เลยค่ะว่ามันจะเป็นประสบการณ์ที่เพื่อนๆ จะลืมไม่ลงแน่นอน แถมได้ความรู้ทางภาษาอีกด้วยนะคะ